วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ในช่วง 2-3 ปีมานี้ เจ้าหมีคุมะมงเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นที่นิยมติดลมบนไปแล้ว เรียกได้ว่าถ้าไปญี่ปุ่นแล้วอยากซื้อของฝาก เราต้องเห็นสินค้าที่ระลึกที่เกี่ยวกับเจ้าหมีคุมะมงเต็มไปหมดแน่ๆ และแน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักมาสคอตสุดน่ารักจากญี่ปุ่นที่กำลังดังไปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้มีสินค้าเกี่ยวกับคุมะมงวางขายทั่วทุกสารทิศมากกว่า 15,000 รายการเลยทีเดียว เราไม่แปลกใจเลยทำไมเจ้าหมีคุมะมงถึงเป็นที่รักและชื่นชอบของคนที่เห็น และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เพราะหน้าตาที่น่ารักปนเจ้าเล่ห์ที่ใครเห็นแล้วอยากพุ่งเข้าไปกอดทันที ถึงแม้เจ้าหมีคุมะมงจะเป็นที่นิยมจนเราคุ้นหน้าคุ้นตากันและเข้ามาให้เราเห็นกันแล้วในไทย ซึ่งหลายคนอาจจะรู้ที่มาที่ไปของเจ้าหมีคุมะมงกันบ้างแล้ว แต่ยังมีหลายคนที่ยังอยากรู้ประวัติของเจ้าหมีคุมะมงว่า เป็นใคร มาจากไหน โด่งดังมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง เอาประวัติคร่าวๆของเจ้าหมีคุมะมงมาฝากกันให้เราได้รู้จักเจ้าหมีนี้ให้มากขึ้นกันค่าาา เจ้าหมีคุมะมง(Kumamon) เป็นมาสคอตหมี ที่ถูกสร้างโดยรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดคุมะโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับเส้นทางการเดินรถไฟชิงกันเซ็งสายคิวชู ในปี 2554 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และหลังจากการเปิดตัว เจ้าหมีคุมะมงก็กลายเป็นที่นิยมในเวลาอันรวดเร็ว และในปลายปีเดียวกันนั้นมีการจัดประกวดตุ๊กตาสัญลักษณ์ โดยให้แต่ละท้องถิ่นส่งตุ๊กตาสัญลักษณ์ของท้องถิ่นของตนเองเข้าประกวด ซึ่งจากจำนวน 350 ตัวทั่วประเทศ เจ้าหมีคุมะมงกลับคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง จากการโหวตของชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ จนปัจจุบัน คุมะมง ได้กลายเป็นมาสคอตยอดในญี่ปุ่นและถูกนำไปใช้ในสินค้าต่างๆเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดหรือญี่ปุ่นในการเป็นของที่ระลึก และใช้ส่งเสริมและผลักดันด้านการตลาดของญี่ปุ่นได้ดี เจ้าหมีคุมะมงยังถูกสร้างเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์และแอพพลิเคชั่นต่างๆมากกว่า 38 รายการให้เราได้ดาวโหลด ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและก็เสียเงินเลยค่ะ และมาสคอตคุมะมงนั้นยังถูกใช้ให้เป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลข่าวสารในการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ได้รับความสนใจมากกว่าและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นอีกด้วย
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างแล้วกับ เจ้าหมีคุมะมง (Kumamon) แต่ก็เชื่อว่าหลายคนก็ยังไม่รู้จัก และไม่สนใจจะรู้จัก ครั้งแรกที่เห็น คุมะมง เราก็ไม่ได้สนใจจะรู้จักมากนัก แต่หลังจากได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของมัน เราก็รู้ว่าเจ้าหมีคุมะมงไม่ใช่มาสคอตธรรมดาๆ หน้าตาของมันไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่เราชอบวิธีการคิดของคนที่ดีไซน์คาแรคเตอร์อะไรสักอย่างออกมาเพื่อมาแก้โจทย์อะไรบางอย่าง คุมะมงเป็นมาสคอตที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะ หนึ่งในจังหวัดที่เพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา คุมาโมโตะอยู่ทางตอนกลางของเกาะคิวชู อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ผู้คนทั่วโลกต่างแห่แหนกันให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นผ่านโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทาง โดยเลือกสื่อสารผ่าน เจ้าหมีคุมะมง มาสคอตประจำจังหวัดคุมาโมโตะ จุดนี้เองที่ทำให้เราอยากเล่าเรื่องคุมะมงให้ผู้อ่านได้รู้จักเจ้าหมีดำนี่กันมากขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่า คุมะมง ไม่ใช่แค่มาสคอตที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมุ่งแต่ commercial แต่คนทั่วโลกมี perception ในทิศทางเดียวกันว่า คุมะมง คือตัวแทนของทุกสิ่งอันในคุมาโมโตะ และอันที่จริงมาสคอตไม่ใช่ความแปลกใหม่อะไรในญี่ปุ่น แทบทุกจังหวัดของญี่ปุ่นมีมาสคอตเป็นของตัวเอง แต่ๆๆ เจ้าหมีคุมะมง ได้ชนะการประกวดมาสคอตจากจำนวนมาสคอตท้องถิ่นที่ถูกส่งเข้าประกวด 350 ตัว ในปี 2554 เพราะอะไรล่ะ?? นั่นสิ … ความละเอียดอ่อนที่แสนพิเศษ ไม่ใช่ความละเอียดอ่อนของ คุมะมง แต่เป็นความละเอียดอ่อนของการดีไซน์คุมะมง นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก คุมะมง ถูงออกแบบให้มีดีเทลที่เป็นลักษณะพิเศษอย่างเช่น เกิด: วันที่ 12 มีนาคม อายุ: ไม่ทราบแน่ชัดแต่ลือกันว่า 6 ขวบ ส่วนสูง: ประมาณ200 ซม. น้ำหนัก: ประมาณ 100 กก. (ตอนแรกเป็นหมีผอมๆ แต่พอได้กินของอร่อยในจังหวัดคุมาโมโตะ ก็อ้วนท้วนขึ้นมาเรื่อยๆ) งานอดิเรก: กิน, เต้นกายบริหารในแบบคุมะมง ตามทำนองเพลง Kumamoto Surprise ความสามารถพิเศษ: ชิมปลา, หมากรุกขั้นเบสิค แค่หมีดำแก้มแดง แต่ทำไมคนถึงหลงรัก? ลายเส้น หมีคุมะมง ไม่มีอะไรซับซ้อน เส้นโค้งเว้าทำให้ดูเป็นมิตร สีที่ใช้ก็มีแค่ แดง ดำ ขาว ที่นอกจากจะจำง่ายแล้วเด็กๆยังวาดตามได้ง่ายอีกด้วย แล้วเห็นแก้มแดงๆของมันมั้ยคะ Mizuno ตั้งใจออกแบบแก้มแดงๆของ คุมะมงให้โดดเด่น เพราะในอดีตจังหวัดคุมาโมโตะถูกเรียกว่าดินแดนแห่งไฟ อีกเหตุผลคือ มาสคอตที่โด่งดังของญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีแก้มแดงๆ แต่ถ้าถามคุมะมงว่า ทำไมนายถึงแก้มแดง? คำตอบคือ เพราะฉันออกกำลังกายเยอะและกินมะเขือเทศ (มีล่าม) หนึ่งในเหตุผลที่คนญี่ปุ่นหลงรักคุมะมงคือ มันเป็นมาสคอตที่มีชีวิตชีวา มีนิสัยเฉพาะตัว เป็นหมีที่น่ารักตลกขบขัน มีความเกรียน และสามารถทำอะไรหลายอย่างได้เหมือนคน มีออฟฟิศเป็นของตัวเอง จึงไม่แปลกใจหากคนที่พบเห็นจะรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของมาสคอตตัวนี้ เพราะคุมะมงไม่เหมือนคนมาใส่ชุดมาสคอต แต่เป็นมาสคอตที่ให้อารมณ์ว่านี่คือ คุมะมง จริง ขายตัวเองเป็น คุมะมงโปรโมทตัวเองไปพร้อมๆกับโปรโมทจังหวัดคุมาโมโตะ ด้วยการไปปรากฎตัวตามที่ต่างๆในแถบคันไซ ทำตัวเป็นมิตรกับชาวเมืองจับมือได้ ถ่ายรูปได้ กอดได้ พร้อมแจกนามบัตรตัวเองออกไปถึง 10,000 ใบ เป็นวิธีที่ทำให้คนรู้จักและเข้าถึงคุมะมงได้ง่ายดายและเกิดการบอกต่อ คุมะมงมีงานโชว์ตัวทุกวัน การโปรโมทตัวเองซ้ำๆอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้คนในแถบคันไซจดจำคุมะมง และโอกาสเดินสายทัวร์ญี่ปุ่นก็มาถึงเมื่อเส้นทางเดินรถชิงคันเซ็นสายคิวชูเปิดให้บริการ ปี 2554 คุมะมงเดินสายโปรโมทตัวเองพร้อมกับเมืองคุมาโมโตะไปทั่วญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นในเมืองอื่นๆต่างหลงรักเมื่อได้รู้จักคุมะมง หลายแคมเปญสร้าง story ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเอาใจช่วย คุมะมง เป็นยุทธวิธีที่สร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน จนก่อเกิดเป็นความผูกพันธ์กับคุมะมงอย่างอ้อมๆ คนจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นแค่มาสคอต แต่มันเป็น ‘หมีคุมะมง’ ที่มาจากจังหวัดคุมาโมโตะ ถ้าให้พูดตรงๆคือ คุมะมง ถูกปูเรื่องมาอย่างดี (storytelling) และเล่าได้อย่างน่ารัก ละมุนละม่อม น่าติดตาม และเป็นมิตรกับกับใครก็ตามที่ได้สัมผัส เป็นมิตรในที่นี้ไม่ใช่แค่ เจ้าตัวหมีคุมะมง แต่รวมถึงเรื่องราวและบรรยากาศที่เชื่อมโยงกันอย่างกลมเกลียวระหว่าง คุมะมง เมืองคุมาโมโตะ และผู้คน Kumamon จับมือกับผู้ประกอบการ สินค้าหลายแบรนด์ยื่นหนังสือมาที่สำนักงานจังหวัดคุมาโมโตะ เพื่อขอนำ คุมะมง ไปเป็นพรีเซนเตอร์หรือเป็นลายบนฉลากสินค้า ความพีคคือ จังหวัดคุมาโมโตะอนุญาตให้ผู้ประกอบการทำเรื่องนำ คุมะมง ไปใช้โปรโมทสินค้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย! แต่มีข้อแม้ว่าสินค้านั้นต้องมีวัตถุดิบจากจังหวัดคุมาโมโตะเป็นส่วนประกอบ อันที่จริงนี่คือยุทธวิธีการโปรโมท คุมะมง ที่คุมาโมโตะไม่ต้องเสียตังค์เลย เหตุการณ์นี้ย้ำให้เรารู้ว่า ‘คุมะมง’ เป็นคาแรคเตอร์ที่แข็งแรงและแบรนด์ดิ้งตัวเองได้ชัดเจนมาก

ในช่วง 2-3 ปีมานี้ เจ้าหมีคุมะมงเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เป็นที่นิยมติดลมบนไปแล้ว เรียกได้ว่าถ้าไปญี่ปุ่นแล้ว...